วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2559

5.พลังงาน


           พลังงาน   เป็นความสามารถในการทำงานซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายรูปแบบ  เช่น  พลังงานความร้อน  พลังงานแสง  พลังงานเสียง  พลังงานไฟฟ้า  พลังงานในรูปต่างๆ เหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงรูปของพลังงานจากรูปหนึ่งไปเป็นอีกรูปหนึ่งได้
เราสามารถแบ่งพลังงานออกได้เป็น 2 แบบคือ

1. พลังงานศักย์ (potential energy)

          พลังงานศักย์ (potential energy) คือ พลังงานที่มีในวัตถุเนื่องด้วยตำแหน่งในสนามแรง หรือมีในระบบนั้นเนื่องด้วยการกำหนดค่าในส่วนนั้น ชนิดของพลังงานศักย์ที่พบได้บ่อยคือ พลังงานศักย์โน้มถ่วงของวัตถุที่ขึ้นอยู่กับมวลและตำแหน่งแนวดิ่ง
          พลังงานศักย์สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แบบด้วยกันคือ

       1.1 พลังงานศักย์โน้มถ่วง (gravitational potential energy) เป็นพลังงานที่สะสมอยู่ในวัตถุที่อยู่สูงจากพื้นโลกขึ้นไปและวัตถุนั้นอยู่ในสนามแรงโน้มถ่วงของโลก

          ***NOTE          แรงโน้มถ่วงของโลก หมายถึง แรงดึงดูดของโลกที่กระทำต่อวัตถุใดๆ เพื่อดึงดูดวัตถุเข้าสู่ศูนย์กลางของโลก

              1.1.1 ปัจจัยที่มีผลต่อพลังงานศักย์โน้มถ่วงของโลก
                  1.1.1.1  มวลของวัตถุ  วัตถุที่มีมวลมาก แรงโน้มถ่วงของโลกที่กระทำต่อวัตถุนั้น จะมาก ทำให้ค่าของพลังงานศักย์โน้มถ่วงมาก

                  1.1.1.2  ตำแหน่งที่อยู่ของวัตถุ วัตถุที่อยู่ห่างจากผิวโลกมากจะสะสมค่าพลังงานศักย์โน้มถ่วงไว้มาก


          ***NOTE          มวลของวัตถุ  หมายถึง  เนื้อของวัตถุ  ซึ่งจะมีค่าคงที่เสมอ ไม่ว่าวัตถุนั้นจะอยู่  ณ  ที่ใด และเป็นสิ่งที่ต่อต้านการเคลื่อนที่ของวัตถุ
          น้ำหนักของวัตถุ  หมายถึง  แรงโน้มถ่วงของโลกที่กระทำต่อวัตถุ  เป็นค่า ที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้  ขึ้นอยู่กับระยะห่างระหว่างวัตถุกับใจกลางของโลก

       1.2 พลังงานศักย์ยืดหยุ่น (elastic potential energy)

          พลังงานศักย์ยืดหยุ่น (elastic potential energy) เป็นพลังงานศักย์ที่สะสมในวัตถุที่ติดกับสปริงที่ถูกทำให้ยืดออก หรือ หดเข้า จากตำแหน่งสมดุล

2. พลังงานจลน์ (kinetic energy)

          พลังงานจลน์ เป็นพลังงานที่เกิดขึ้นขณะวัตถุกำลังเคลื่อนที่เนื่องจากมีแรงมากระทำต่อวัตถุและมีค่าเปลี่ยนแปลงตามอัตราเร็วของวัตถุเคลื่อนที่
รูปที่ การไหลของน้ำทำให้กังหันน้ำหมุน

ปัจจัยที่มีผลต่อพลังงานจลน์
1) มวลของวัตถุ วัตถุที่มีค่าของมวลมาก จะมีพลังงานจลน์มาก

2) ความเร็วในการเคลื่อนที่ของวัตถุ วัตถุที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงจะ มีพลังงานจลน์มากด้วย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น